ชุบโลหะด้วยไฟฟ้าและไม่ใช้ไฟฟ้า คืออะไร ทำไมต้องชุบโลหะ

ชุบ โลหะ

โลหะ วัสดุที่แข็งแรงทนทาน เราทราบกันดีแต่เมื่อใช้งานไปนานๆ ความแข็งแรงทนทานอาจน้อยลง โลหะอาจเกิดการผุกร่อน เกิดสนิมหรือสึกหรอ การชุบโลหะคือกระบวนการที่สำคัญมาก ช่วยเพิ่มคุณสมบัติบางประการให้กับโลหะหรือชิ้นงานที่เป็นเหล็ก เช่น เพิ่มความแข็งแรงทนทาน ต้านทานการสึกหรอ ทนต่อการเสียดสี ป้องกันการเกิดสนิม ตลอดจนทำให้ชิ้นงานเกิดความสวยงาม เป็นต้น

การชุบโลหะ คือ การทำให้โลหะชนิดหนึ่งไปเคลือบบนผิวของโลหะอีกชนิดหนึ่ง การชุบโลหะเป็นกระบวนการที่มีมายาวนาน แต่ปัจจุบันกระบวนการชุบโลหะมีความทันสมัยมากขึ้นสามารถลดปัญหามลพิษและของเสียได้ การชุบเหล็กกล้า จะทำให้เหล็กกล้าเกิดความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นโดยการให้ความร้อนจากนั้นทำให้เหล็กเย็นตัวลงในอันตรายที่รวดเร็วจนโครงสร้างเปลี่ยนแปลงไปเป็นมาร์เทนไซด์

การชุบโลหะ โดยหลักๆ แบ่งออกเป็นสองกระบวนการ ได้แก่ การชุบโลหะด้วยไฟฟ้าและการชุบโลหะแบบไม่ใช้ไฟฟ้า เรามาดูกันว่าแต่ละแบบ มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

1.การชุบโลหะแบบใช้ไฟฟ้า

การชุบโลหะแบบใช้ไฟฟ้า เป็นกระบวนการที่นำกระแสไฟฟ้าเข้าไปในสารละลายเกลือของโลหะ อิออนบวกจะวิ่งมารับประจุไฟฟ้าลบที่ชิ้นงาน ซึ่งทำหน้าที่เป็นขั้วลบ จึงเกิดเป็นชั้นบางๆ มาเคลือบลงบนชิ้นงาน โดยเคลือบลงบนผิวด้านนอกของชิ้นงาน หรือมีลักษณะเหมือนชั้นฟิล์มบางๆ ยกตัวอย่างเช่น การชุบทองแดง โครเมี่ยม นิกเกิล เป็นต้น

2.การชุบโลหะแบบไม่ใช้ไฟฟ้า

การชุบโลหะแบบไม่ใช้ไฟฟ้า  คือ กระบวนการจับตัวของโลหะ บนผิวหน้าของวัสดุ โดยเกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี โดยไม่ใช้กระแสไฟฟ้า เช่น การชุบทองแดง นิดเกิลแบบไม่ใช้ไฟฟ้าลงบนแผ่นวงจรพิมพ์ ปัจจุบันการชุบโลหะแบบไม่ใช้ไฟฟ้าได้รับความนิยมสูง ความหนาของพื้นผิวชิ้นงานจะสม่ำเสมอหรือหนาทั่วเท่ากันทั้งหมด ผิวเคลือบจะมีรูพรุนน้อย สามารถใช้กระบวนการนี้ได้ทั้งวัสดุที่เป็นเหล็กและอลูมิเนียม ผิวเคลือบมีความแข็งแรงทนทาน แถมยังสามารถควบคุมความหนาของชิ้นงานได้ สามารถชุบเคลือบผิวได้ทั่วทุกพื้นผิว ถึงแม้ว่าชิ้นงานนั้นๆ จะมีรูปร่างที่ซับซ้อนเพียงใดก็ตาม การชุบโลหะแบบไม่ใช้ไฟฟ้าทำให้ได้ชิ้นงานที่แข็งแรงทนทาน สามารถทนทานต่อการสึกหรอ สามารถทนทานต่อการกัดกร่อนได้และยังสามารถทนทานต่ออุณหภูมิและทนทานในสภาวะความเป็นด่างสูงได้ด้วย

นอกจากมีการชุบโลหะโดยไม่ใช้ไฟฟ้าและใช้ไฟฟ้าแล้ว ยังมีการชุบโลหะด้วยวิธีการอื่นๆ เช่น การชุบโลหะแบบจุ่มร้อน เช่น การชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน Surface Hardening กระบวนการด้านวัสดุโลหะ ช่วยให้ผิวด้านนอกแข็งแรงมากกว่าผิวที่อยู่ด้านใน การชุบโลหะแบบการเปลี่ยนแปลงทาเคมีและไฟฟ้าเคมี ก็ได้รับความนิยมด้วยเช่นกัน