รถยนต์ e-Power อาจไม่โดนใจคนไทย แต่กลับได้ใจชาวอาทิตย์อุทัยไปเต็ม ๆ

โดยปกติเมื่อเราจะซื้อรถใหม่ ก็จะต้องทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ในระยะเวลา 1 – 5 ปีแรก เพราะรถใหม่ยังทุกอย่างยังสมบูรณ์ บางคันอาจมีมูลค่าสูงด้วย ทำประกันชั้น 1 จึงเหมาะที่สุด มีรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่มีนวัตกรรมใหม่ ทันสมัย มาพร้อมเทคโนโลยีพลังงานและการขับเคลื่อนใหม่ที่น่าสนใจอย่าง e-Power เรียกว่าเป็นรถที่ดีพร้อมและเหมาะสมแล้วที่จะเคียงคู่กับประกันชั้น 1 แต่ปรากฏว่ารถยนต์แบบนี้ไม่ฮิตในเมืองไทย

หากจะยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนก็คือ Nissan kicks e-Power เป็นรุ่นหนึ่งของรถ e-Power ที่มาเปิดตัววางตลาดในไทยได้ปีกว่า ๆ แต่ปรากฏว่าทำยอดขายได้ไม่ค่อยดี และคนไทยยังรู้สึกเฉย ๆ ผิดจากชาติเจ้าของแบรนด์อย่างญี่ปุ่น รถรุ่นนี้กลับได้รับกระแสตอบรับดี เบื้องหลังของรถ e-Power มีอะไรซ่อนอยู่ที่คนไทยยังมองไม่เห็นหรือเปล่า ทำไมคนญี่ปุ่นชอบแต่คนไทยไม่ชอบมาวิเคราะห์กัน

สมรรถนะที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้า

สมรรถนะในภาพรวม อย่างเรื่องของแรงบิดนั้น รถ e-Power สามารถทำได้ใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้าเลยทีเดียว รถ e-Power นั้นมีการใช้ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าสร้างแรงบิดและใช้ในการขับเคลื่อนล้อรถยนต์โดยตรง ตรงนี้จึงทำให้ผู้ขับขี่ในญี่ปุ่นมองว่าสมรรถนะนั้นให้อารมณ์แบบรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่ารถไฮบริด ส่วนนี้ถือเป็นจุดแรกที่คนญี่ปุ่นชอบมาก

คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้าแต่ดีกว่าที่ไม่ต้องชาร์จ

จุดหนึ่งที่ต้องยอมรับว่า ผู้คนยังดูไม่ค่อยปลื้มรถยนต์ไฟฟ้าเท่าไหร่ก็เนื่องจากประเด็นในเรื่องของการชาร์จพลังงาน ที่จำเป็นจะต้องมีสถานีชาร์จไฟ ระยะทางในการขับขี่ก็ยังเป็นอีกปัญหาหนึ่ง รวมไปถึงความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่คนไทยยังเกรงว่าจะมีเงื่อนไขการชดเชยไม่ครอบคลุม ซึ่งอาจจะต้องรออีกสักพักกว่าทุกอย่างจะดูลงตัว

แต่รถยนต์ e-Power นั้นต่างกันปัญหาในทำนองนี้มีน้อยมาก สามารถใช้งานคล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ดีกว่าที่ไม่ต้องชาร์จ จึงทำให้แก้ปัญหาเรื่องระยะทางในการขับขี่ได้ด้วย ตรงนี้เป็นจุดเด่นที่คนญี่ปุ่นเห็นแต่คนไทยอาจยังไม่เล็งเห็นจึงไม่นิยมเท่ากับคนญี่ปุ่น

มีตัวเลือกที่หลากหลาย

รถยนต์ไฟฟ้าในตอนนี้เราก็จะมีตัวเลือกหลัก ๆ อยู่ไม่มากนัก แต่รถยนต์ e-Power นั้นมีตัวเลือกที่มากกว่า เพราะเอาเข้าจริงหากมองเฉพาะค่าย Nissan ไม่ใช่ว่า Nissan kicks e-Power จะเป็นรุ่นแรกของรถแบบนี้ ย้อนกลับไปในปี 2016 รถ e-Power จาก Nissan ก็เข้าสู่ตลาดแล้ว ในตอนนั้นก็คือ Nissan Note e-Power และต่อมาก็มี Nissan serena ที่เป็น e-Power เช่นกัน จนกระทั่งมาถึง Nissan kicks e-Power ในปัจจุบัน

ซึ่งค่ายรถอื่น ๆ ที่ทำ รถ e-Power ก็เป็นเช่นนี้ จึงทำให้ผู้ที่จะขับขี่รถแบบนี้มีทางเลือกที่มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า ส่วนนี้ก็เป็นอีกจุดที่คนญี่ปุ่นเลือกที่จะนำมาพิจารณาด้วย

ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่ในแบบญี่ปุ่น

เป็นเหตุผลสำคัญอีกข้อที่ทำให้คนญี่ปุ่นถูกใจในรถ e-Powerเป็นอย่างมากนั่นก็คือ รถแบบนี้เข้ากับจริตการใช้รถของคนญี่ปุ่นได้ดี ถนนหนทางในญี่ปุ่นนั้นมีการวางผังเมืองที่เป็นระบบ โดยภาพรวมถนนหนทางของญี่ปุ่นถูกออกแบบมาให้ใช้ความเร็วต่ำในการขับขี่ ซึ่ง รถ e-Power ก็ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ดีมาก ๆ

ที่ญี่ปุ่นนั้นมีกฎหมายที่เข้มงวดในเรื่องความเร็วมาก อีกทั้งค่าบริการทางด่วนของญี่ปุ่นก็ค่อนข้างแพง คนญี่ปุ่นจะไปไหนจึงเน้นใช้รถสาธารณะ แต่ถ้าจะขับรถเองก็จะเน้นแบบขับสบาย ๆ ไม่รีบร้อนตรงนี้จึงทำให้รถ e-Power ครองใจคนญี่ปุ่นได้นั่นเอง

คงได้เห็นข้อดีของรถ e-Power ในมุมมองคนญี่ปุ่นกันไปแล้ว คนไทยจะเลือกใช้หรือไม่ก็ถามใจตนเองดู และอย่าลืมอีกเรื่องที่สำคัญก็คือ เรื่องของการทำประกันภัยรถ ถ้าสนใจประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้สำหรับรถ e-Power ของคุณ แต่ยังไม่มั่นใจเรื่องความเหมาะสมของราคา สามารถเปรียบเทียบประกันก่อนตัดสินใจได้แค่เข้าไปดูรายละเอียดที่ EasyCompare บอกเลยว่าจะช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ